Thursday, September 17, 2015

เปิดภาพ 9 ศพมนุษย์สุดน่าฉงน ผ่านไปสิบ-ร้อยปี ยังไม่เน่า


 ศพไม่เน่าเปื่อย เป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความฉงนสนเท่ห์แก่มนุษย์มานานหลายพันปี โดยเฉพาะศพที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการจงใจเพื่อให้เป็นมัมมี่ แต่กลับคงสภาพเอาชนะกาลเวลาได้ไม่เน่าสลายผุพัง ขณะที่มีอีกหลายศพก็ผ่านกระบวนการดองเก็บรักษาร่างไว้ และรักษาสภาพศพได้สมบูรณ์อย่างน่าเหลือเชื่อ จนแม้ว่าเวลาจะล่วงผ่านหลายสิบปี ร่างไร้ลมหายใจนั้นก็ยังดูสดใหม่ราวกับยังไม่ได้จากไปไหน เพียงแต่นอนหลับไปเท่านั้น

          วันนี้กระปุกดอทคอมจะขอพาคุณไปพบกับ 9 ศพมนุษย์สุดน่าฉงน ผ่านไปสิบ-ร้อยปี ยังไม่เน่า ที่เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์ หยิบมานำเสนอมาฝากกัน พวกเขาเหล่านี้เป็นตัวแทนของความตายในรูปแบบที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนทีเดียวเชียว

               "เอิตซี" เป็นมัมมี่ธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ย้อนไปจนถึงยุคทองแดง ร่างของเอิตซีถูกพบฝังอยู่ในน้ำแข็งบนภูเขาทางตอนใต้ของรัฐทิโรล ประเทศอิตาลี จากการตรวจสอบเชื่อว่าเขาน่าจะมีชีวิตอยู่ในช่วง ปี 3359-3105 ก่อนคริสตกาล และคาดว่าเสียชีวิตจากถูกกระแทกที่ศีรษะ ร่างกายของเอิตซียังมีผิวหนังห่อหุ้มอยู่และยังคงความสมบูรณ์อย่างน่าเหลือเชื่อ เสื้อผ้าของเขาทำมาจากหญ้าและหนัง ในขณะที่เขาตายยังแบกขวาน มีด แล่งใส่ลูกธนู และลูกเบอร์รีอีกจำนวนมาก ในปัจจุบันร่างและสิ่งของของเอิตซีถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีเซาธ์ไทรอล ในอิตาลี









@@@@


 2. มนุษย์โทลลุนด์ (Tollund Man)
             
                โทนลุนด์ เป็นชื่อของร่างมัมมี่ชายที่ถูกพบในบริเวณพรุพีต พื้นที่ราบลุ่มบนคาบสมุทรจัตแลนด์ ประเทศเดนมาร์ก สภาพแวดล้อมได้ถนอมรักษาร่างกายของเขาไว้ได้อย่างดีน่าเหลือเชื่อ แม้แต่ริ้วรอยบนใบหน้า กระทั่งรอยย่นของริมฝีปาก ก็ถูกเก็บรักษาไว้ได้ทุกรายละเอียด จนผู้ที่พบร่างนี้เข้าเมื่อปี 1950 ยังตกใจคิดว่าเป็นร่างเหยื่อถูกฆาตกรรมมาใหม่ ๆ เสียด้วยซ้ำ ก่อนจะทราบจากการตรวจสอบว่า โทลลุนด์น่าจะมีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตศักราช ปัจจุบันร่างของมนุษย์โทลลุนด์ผู้นี้ถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ซัลซ์บวร์ก เมืองซัลซ์บวร์ก ประเทศเดนมาร์ก









 3. วลาดิมีร์ เลนิน (Vladimir Lenin) 

               วลาดิมีร์ เลนิน (1870-1924) ผู้นำนักปฏิวัติมาร์กซิสต์คนแรกของสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต ก็เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่เป็นเจ้าของร่างที่ไม่เปื่อยสลาย หากแต่เขาไม่ได้เป็นมัมมี่ธรรมชาติ แต่เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจของคณะผู้มีอำนาจในสหภาพโซเวียตขณะนั้น เนื่องจากต้องการให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมผู้เป็นทั้งนายกรัฐมนตรีคนแรกของสหภาพโซเวียต ผู้นำพรรคบอลเชวิค และผู้เป็นเจ้าของแนวคิดส่วนใหญ่ของลัทธิเลนิน ในสภาพไม่ต่างเมื่อยังมีชีวิต แนวความคิดทำไครโอนิกส์ กับร่างของเลนินก็ถูกเสนอขึ้นมาในคราวนั้นด้วย แต่ท้ายที่สุดก็ลงเอยด้วยวิธีฉีดและอาบน้ำยาดองศพ ในปัจจุบันนี้ร่างมัมมี่ของวลาดิมีร์ เลนิน ถูกเก็บรักษาไว้ที่อนุสาวรีย์เลนิน ในกรุงมอสโก โดยเครื่องแต่งกายของเขาได้รับการเปลี่ยนทุก ๆ 5 ปี





  4. โรซาเลีย ลอมบาร์โด (Rosalia Lombardo) 

               เด็กหญิงโรซาเลีย ลอมบาร์โด จากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันควรด้วยโรคปอดบวมเมื่อปี ค.ศ. 1920 ขณะมีอายุได้เพียง 2 ขวบ บิดาผู้ทำใจไม่ได้กับการสูญเสียจึงทำมัมมี่ร่างของลูกน้อยสุดที่รักเอาไว้ โดยเรียกใช้บริการนักดองศพที่เชี่ยวชาญที่สุดในขณะนั้น ด้วยส่วนผสมในสัดส่วนที่ลงตัวระหว่างฟอร์มาลิน แอลกอฮอล์ กรดซาลิไซลิก และกลีเซอรีน สามารถเก็บรักษาสภาพร่างกายของหนูน้อยไว้ได้สมบูรณ์เหลือเชื่อ ปัจจุบันร่างของเธอนอนอย่างสงบอยู่ในสุสานโบสถ์นิกายคาปูชิน ในเมืองปาเลอร์โม บนเกาะซิซิลี ของอิตาลี ผู้คนต่างเรียกโรซาเลียว่า "Sleeping Beauty" จากท่าหลับตาพริ้มที่ดูแสนสงบของเธอ



@@@@@

  
 5. ท่านหญิงซินจุย (Lady Xin Zhui)

               ร่างมัมมี่ของท่านหญิงซิยจุย หรือ ท่านหญิงไต้ ภริยาของขุนนางในยุคราชวงศ์ฮั่นของจีน ถือเป็นหนึ่งในมัมมี่ที่สภาพดีที่สุดที่เคยขุดพบมา ร่างของท่านหญิงถูกขุดค้นพบเมื่อปี 1972 ที่เมืองฉางซา มณฑลหูหนาน จากการตรวจสอบคาดว่าท่านหญิงเสียชีวิตในปี 163 ก่อนคริสตกาล ในช่วงอายุราว 50 ปี ศพของท่านถูกเก็บรักษาอย่างดีในโลงที่ทำกั้นเป็นกรอบหลายชั้น มีช่องว่างบรรจุไปด้วยข้าวของต่าง ๆ และมีน้ำยาบางอย่างหล่อไว้ภายใน ขณะที่แต่ละชั้นของโลงก็ถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนา แม้จะเสียชีวิตมาแล้วกว่า 2,000 ปี ในเส้นเลือดยังคงพบว่ามีเลือดที่ไหลเวียนคั่งค้างอยู่ แสดงให้เห็นถึงการถนอมรักษาอย่างดี นักวิทยาศาสตร์ได้ชันสูตรร่างของท่านหญิงซินจุย และสรุปสาเหตุการณ์ตายว่ามาจากอาการหัวใจวาย ในปัจจุบันร่างของท่านหญิงถูกเก็บรักษาและจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ประจำมณฑลหูหนาน






  
6. พระอิทิกิลอฟ (Dashi-Dorzho Itigilov)

               Dashi-Dorzho Itigilov เป็นนักบวชใพระพุทธศาสนาชาวรัสเซีย เสียชีวิตในขณะกำลังนั่งสมาธิในท่าดอกบัวเมื่อปี 1927 โดยก่อนละสังขาร ท่านได้ฝากคำสั่งเสียไว้แก่ลูกศิษย์ 2 ประการ ประการแรก คือ ฝังท่านในท่าสุดท้ายที่ละสังขาร และประการที่สอง ให้ขุดร่างท่านขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเวลาล่วงผ่าน ศิษยานุศิษย์ล้วนทำตามคำสั่งเสียทั้งสองนั้น และขุดนำร่างของท่านขึ้นมาในปี 1955 อันนำมาซึ่งความประหลาดใจอย่างที่สุด เมื่อร่างของท่านไม่เน่าสลาย ซ้ำยังคงอยู่ในท่วงท่าขัดสมาธิท่าดอกบัวเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยน การขุดนำร่างขึ้นมาอีกครั้งเป็นหนที่สองในปี 1973 ก็ยังคงพบว่าร่างไร้ลมหายใจของท่านก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม การขุดร่างนำร่างขึ้นมาครั้งล่าสุดในปี 2002 ร่างของท่านก็ยังสดใหม่ ดูเหมือนคนเพิ่งเสียชีวิตมาราว 36 ชั่วโมง ไม่เหมือนคนที่ตายมาแล้วนับสิบ ๆ ปีเลยแม้แต่น้อย เหล่าศิษยานุศิษย์และนักบวชรุ่นหลังจึงได้ประกาศให้ร่างของท่านอิทิกิลอฟ เป็นประหนึ่งพระรูปศักดิ์สิทธิ์ และเก็บรักษาไว้ที่วัด Itigel Khambyn ordon ในจังหวัดบุรยาเตีย ของรัสเซีย 



7. ญวนนิตา ลา ดอนเซลลา (Juanita La Doncella) 


               ลา ดอนเซลลา เป็นมัมมี่เด็กสาวเผ่าอินคา มีอายุกว่า 500 ปี ร่างของเธอถูกพบบนเทือกเขาแอนดีส ในอาร์เจนตินา ในท่วงท่ากำลังนั่งหลับ สภาพร่างกายรวมทั้งเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก จนเนชั่นแนล จีโอกราฟิก ถึงกับยกให้เธอเป็นมัมมี่ที่สมบูรณ์ที่สุด นักวิจัยเชื่อว่าเธอเป็นหนึ่งในบรรดาเด็กสาวบริสุทธิ์ที่ถูกเลือกมาเป็นเครื่องสังเวยแก่เทพเจ้าและถูกนำมาทิ้งบนภูเขาสูงเพื่อทดสอบความเสียสละ ซึ่งเธอก็ได้สละชีวิตของตัวเองไปจริง ๆ การชันสูตรศพพบว่าสิ่งที่เธอได้กินเข้าไปก่อนตาย เป็นอาหารของชนชั้นสูงในเวลานั้น มากด้วยไขมันและโปรตีน อันมีส่วนช่วยให้ร่างของเธอคงสภาพไว้ได้สมบูรณ์เช่นนี้ 










            8. จอห์น ทอร์ริงตัน (John Torrington)


                จอห์น ทอร์ริงตัน นักสำรวจหนุ่มชาวอังกฤษวัย 22 ปี เสียชีวิตในปี 1846 ด้วยความเจ็บป่วยจากสารตะกั่ว ระหว่างเดินทางสำรวจเส้นทางสู่ภูมิภาคซีกตะวันตกเฉียงเหนือ ศพของเขาถูกฝังไว้บนพื้นที่ราบแห้งแล้งของอาร์กติกแคนาดา และนอนอย่างสงบอยู่ ณ ที่นั่นจนกระทั่งมีการขุดค้นพบหลุมศพของเขาในปี 1984 และก็ต้องประหลาดใจสุดขีดที่ร่างกายของเขายังคงสมบูรณ์ไม่เน่าเปื่อย นอกเหนือไปจากนั้นใบหน้าที่ฉีกยิงฟันและดวงตาเปิดโพลง ก็กลายเป็นกระแสข่าวดังไปทั่วโลก จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง Stranger in a Strange Land ของวง Iron Maiden และหนังสือนิยาย Wilderness Tips ของมาการ์เร็ต แอตวูด 







 9. นักบุญซิต้า (Saint Zita)


               ซิต้าอุทิศตนเป็นผู้ศรัทธาอย่างแรงกล้าในคริสตศาสนานิกายคาทอลิกจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต เธอสิ้นลมในปี ค.ศ. 1272 ในวัย 60 ปี มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าในค่ำคืนนั้นมีดวงดาวปรากฏขึ้นบนฟากฟ้าเหนือตำแหน่งที่เป็นบ้านของเธออย่างพอดีด้วย ร่างของซิต้าถูกขุดขึ้นมาในปี 1580 และนำมาซึ่งความอัศจรรย์ใจแก่ทุกคน เมื่อสภาพศพยังคงสมบูรณ์ไม่เน่าเปื่อย ซิต้าได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญในปี 1696 ในปัจจุบันนี้ร่างของนักบุญหญิงซิต้าถูกเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ในเมืองบ้านเกิดของเธอ ที่หมู่บ้านบาซิลิกา ดิ ซาน เฟรดิอาโน ในเมืองลุกกา ประเทศอิตาลี 








Source: http://hilight.kapook.com/view/126527

Hot News

About Hot News

Author Description here.. Nulla sagittis convallis. Curabitur consequat. Quisque metus enim, venenatis fermentum, mollis in, porta et, nibh. Duis vulputate elit in elit. Mauris dictum libero id justo.

Subscribe to this Blog via Email :