Showing posts with label Health. Show all posts
Showing posts with label Health. Show all posts

Wednesday, September 16, 2015

วิธีรักษาโรคกระดูกเสื่อม ด้วยภูมิปัญญาไทย

วิธีรักษาโรคกระดูกเสื่อม ด้วยภูมิปัญญาไทย

ลดอาการปวดหลัง ขาชาจากหมอนรองกระดูก กดทับ หายได้ใน 3 อาทิตย์
วิธีรักษาโรคกระดูกเสื่อม ด้วยภูมิปัญญาไทย
แชร์ได้เลยก่อนแชร์กดไลน์ด้วยนะ ที่บอกไม่ใช่อะไรนะคืออยากรู้ว่า ใครติดตามบ้างจะลบออกถูกคนเพราะมีรอเข้าเยอะแต่เต็มแล้ว
ลิงก์ผู้สนับสนุน ช่วยกดไลน์ให้กำลังใจกัน


โรคกระดูกเสื่อมเกิดจากการเสื่อมสมรรถภาพของกระดูกในร่างกายของเรา ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จากการทาน จากการเคลื่อนไหวมากเกินไป มักจะเกิดในวัยกลางคน วัยสูงอายุ สังเกตเห็นได้ชัดว่าเมื่อเคลื่อนไหวจะมีเสียงกร๊อบแกร๊บ กร๊อบแกร๊บ บางทีก็จะปวดตตรงข้อกระดูก รู้สึกขัดๆปวดๆ เคลื่อนไหวลำบาก นั่งคุกเข่า นั่งยองๆ นั่งพับเพียบก็จะลุกขึ้นยาก การรักษาโรคกระดูกเสื่อมนั้นส่วนใหญ่คนมักจะพึ่งยาแผนปัจจุบัน อาหารเสริมต่างๆ เช่น แคลเซียมแคปซูล แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ ขอแนะนำเป็นพิเศษ อาจทำให้เราหายขาด หรือบรรเทาอาการโรคกระดูกเสื่อมได้ คือทานแบบภูมิปัญญาไทย ด้วย น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง
น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง เป็นสูตรธรรมชาติบำบัด ที่จะสามารถช่วยให้ร่างกายสร้างมวลกระดูกใหม่ขึ้นมา แล้วไปเสริมสร้างกระดูกที่เสื่อมอยู่ให้แน่นเหมือนเดิม
ส่วนผสม “น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง” รักษาโรคกระดูกเสื่อม
ชุดละวัน เช้า เย็น แบ่งเอา
– กระชาย 1 ขีด
– น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
– มะนาว 2 ลูก




วิธีทำ “น้ำกระชาย น้ำมะนาว น้ำผึ้ง” รักษาโรคกระดูกเสื่อม
1. นำกระชายล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาตำ โดยใช้ครกหินอ่างศิลา หรือ ปั่นโดยใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้ละเอียดเติมน้ำสะอาดลงไป 2 แก้ว
2. นำกระชายที่ตำหรือปั่น มากรองผ้าขาวบาง จนได้หัวเชื้อ เอาแต่น้ำหัวเชื้อ
3. ใส่น้ำผึ้ง และ มะนาวผสมลงไปปรุงรสตามใจชอบ
แนะนำให้ใช้วิธีการตำโดยใช้ครกหินอ่างศิลา จะช่วยในการบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วันฟ้าใส ใจสองเรา





Source: https://www.facebook.com/249167131776834/photos/pcb.1165170206843184/1165169393509932/?type=1&permPage=1


การแช่เท้าด้วยเกลือ

การแช่เท้าด้วยเกลือ

อาศัยหลักการ การถ่ายเทประจุ จากแหล่งที่มีประจุ มากไปยัง แหล่งที่มีประจุน้อย เกลือ มีประจุบวก จะดึง ประจุลบ ออกจากร่างกาย อาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์ และศาสตร์เรื่องพลังงาน
ที่เท้ามีจุดเชื่อมต่อกับจุดจักระในร่างกาย ทั้ง 7 จุด จักระจะหมุนอยู่ตลอดเวลา แต่บางคนหมุนช้า บางคนหมุนเร็ว การหมุนของจักระ ก็เหมือนกับการหมุนของใบพัดลม เมื่อหมุนไปเรือยๆ จะสังเกตเห็นมีฝุ่นเกาะที่ใบพัด หากไม่นำพัดลมมาทำความสะอาด สิ่งสกปรกเหล่านั้นก็จะเกาะเพิ่มมากขึ้นๆ แต่เนื่องจากคนไม่สามารถทำให้จักระหยุดได้ ถ้าจักรหยุดหมุนก็คือตาย การจะขจัดขยะฝุ่นออกจากใบพัดของจักระได้ ก็คือการใช้เกลือแช่น้ำ แล้วแช่เท้าไว้ สัก 20 นาที ต่อครั้ง เกลือเมื่อแตกตัวแล้วจะเป็นประจุบวก ตัวสิ่งสกปรกนั้นเป็นประจุลบ เมื่อเกลือแตกตัวในน้ำแล้ว ด้วยความเข้มข้นที่พอดี จึงดึงดูดประจุลบที่ติดอยู่ที่จักระออก ทำให้โรคบางอย่างที่เกิดจากจักระมีประจุลบเกาะอยุ่ หายเป็นปกติ ทั้งนี้ต้องอาศัยเวลา และความถึ่ในการแช่เท้าให้บ่อย ๆ เพื่อทำความสะอาดจักระของเรา



การแช่เท้าด้วยเกลือ จึงมีคุณสมบัติดังนี้

- ดึงพลังงานลบ พลังงานไม่ดี ออกจากร่างกาย โดยดึงสิ่งไม่ดี ที่อยู่ในรูปอนู ประจุลบออกจากอัวยวะผ่านฝ่าเท้่า ฝ่าเท้าเป็นจุดเชื่อมต่ออวัยวะภายในร่างกายนั้นไม่ถ้วน
- ดึงโรคภัยที่เจ็บป่วยด้วยพลังงานลบ ออกจากร่างกาย เมื่อประจุลบ พลังงานลบออกจากร่างกายแล้ว เราก็ใช้วิธีการรักษาแบบเก่า หรือแผนใหม่รักษา การรักษาจึงได้ ผล แต่หากไม่ดึงพลังงานลบ ที่มีอย่เป็นจำนวนมากออกมา การรักษาก็ทำได้ ยาก
- ดึงพลังงานลบที่เกิดจากคุณไสย มนต์ดำ ออกจากร่างกาย
- ดึงสิ่งที่ตกค้างในร่างกายออก ทำให้โรคที่เป็นอยู่ หาย
- ดึงพลังงานลบที่เกิดจากอารมณ์ ออก โดยละเอียด ทุกซอกทุกมุมของร่างกาย
เมื่อแช่เท้าด้วยเกลือ บ่อย ๆ ร่างกายจึงไม่มีพลังงานลบที่ก่อโรคหลงเหลืออยุ่ ทำให้สุขภาพดีขึ้น


วิธีการทำ
1. หากะละมัง ทรงแบบที่วางเท้าได้ ใส่น้ำลงไปให้ท่วมตาตุ่ม
2. ใส่เกลือทะเล (เกลือเม็ด) ลงไป 1 กำมือ
3. เอาเท้าเหยียบไว้ที่เกลือ
4. หากมีเพลงบรรเลง เพลงสำหรับทำสมาธิ ให้เปิดเพลงไปด้วย
5. แบมือ หงายมือขึ้น วางที่หัวเข่า เอาความรู้สึกไว้ที่กลางกระหม่อง
6. นั่งเช่นนี้ 15-20 นาที
7. เมื่อครบเวลาแล้ว เอาน้ำเปล่าล้างเท้าทั้งสองข้าง ระวังอย่าให้น้ำกระเด็ดออกจากกะละมัง จากนั้นเอาน้ำแช่เท้าไปทิ้งในโถส้วม ห้ามทิ้งที่อื่น เพราะพลังงานลบจะไปติดคนอื่น
8. คนปกติ ทำอาทิตย์ละครั้ง คนป่วย ทำทุกวันก่อนนอน
9 คนที่ธาตุไม่สมดุล มีอาการหนาว สั่น ให้ใช้น้ำอุ่น คนที่ร้อน ให้ใช้น้ำเย็น
ชมรมรักษ์สุขภาพ





Source: https://www.facebook.com/249167131776834/photos/a.994083487285191.1073741826.249167131776834/1178608925499312/?type=1&theater


Tuesday, September 1, 2015

สุดสยอง!!จัดฟันแฟชั่นอันตรายมากกว่าที่คุณคิด "สวยไม่คุ้มเสีย"


Published on: 1 ก.ย. 2558


การจัดฟัน ดัดฟันในปัจจุบันมักนิยมกันมากในกลุ่มวัยรุ่น ด้วยความเชื่อที่ว่าจัดฟันแล้วสวยขึ้น น่ารักขึ้น ดูดีขึ้น การจัดฟันแต่เดิมนั้นเรียกได้ว่าเป็นการรักษาผู้ที่มีสภาพฟันไม่สวยงาม เช่น ฟันเก ฟันห่าง โดยฟันจะเรียงตัวสวย ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่ทำการรักษา และยังช่วยในการเคี้ยวอาหารอีกด้วย ซึ่งพบได้ว่าปัจจุบันมีความนิยมจัดฟันแฟชั่น ที่ทำเพื่อความสวยงาม น่ารักเวลาจัดฟันเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่า การจัดฟันแฟชั่นนั้น มีอันตรายมากกว่าที่เราคิด





ข้อเสียจัดฟันแฟชั่น

ลวดจัดฟันแฟชั่นที่ใช้คุณ ภาพต่ำ มีสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว พลวง ซิลิเนียม โครเมียม และสารหนู หากสะสมในร่างกายมาก ๆ จะเป็นอันตรายต่อไต ทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ของเซลล์ตาย อาจทำให้เกิดมะเร็งได้ การใช้ลวดที่เป็นสี เมื่อใส่ไว้ในปากสักระยะหนึ่ง มีการสัมผัสอาหาร ของเย็น ของร้อน แล้วสีจางลง ส่วนประกอบของสีจะเข้าสู่ร่างกาย ผ่านเข้ากระเพาะอาหาร และดูดซึมไปสะสมไว้ในร่างกาย เป็นการสะสมสารพิษไว้ในร่างกาย





อันตรายต่อฟันและเนื้อเยื่อในช่องปาก ในขั้นตอนการทำ จะมีการใช้หัวกรอ กรอเอาเคลือบฟันที่ดีออกไป รวมทั้งใช้กรดกัดฟัน ซึ่งจะทำให้เคลื่อนฟันบางลง ทำให้ความแข็งแรงของฟันลดลง ทำให้เสียวฟันได้ง่าย





การปรับแต่งลวดโดยผู้ที่ไม่มีความรู้จะทำให้เกิดแรงกดไปที่ตัวฟัน และฟันเคลื่อนไปจากเดิม ทำให้มีอาการปวดฟันมากอาจทำให้ฟันซี่นั้นกลายเป็นฟันตาย รากฟันละลาย อาจจะต้องถอนฟันซี่นั้นทิ้งไป เครื่องมืออาจหลุดลงคอ หรือ หลอดลม ทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต นอกจากนี้การใส่เครื่องมือจัดฟันแฟชั่นมักทำให้เกิดการบาดกระพุ้งแก้ม หรือเนื้อเยื่อในช่องปากกลาย เป็นแผล เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเนื้อเยื่อในช่องปาก อีกทั้งเครื่องมือที่ใส่ในปาก จะขัดขวางการแปรงฟันและทำความสะอาดฟัน อาจทำให้ฟันผุ เหงือกอักเสบ บวมแดง มีกลิ่นปาก





ท้ายนี้ขอเตือนวัยรุ่นทั้งหลายว่า หากฟันไม่ได้มีปัญหาก็ไม่ควรไปจัดหรือดัดฟันแฟชั่น เพราะนอกจากจะเสียเงินโดยใช่เหตุแล้ว อาจได้รับอันตรายจากวัสดุจัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน ถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากมีความจำเป็นที่จะต้องจัดฟันควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีกว่า

Source: http://www.tsood.com/content/145931/






Sunday, August 30, 2015

ดัดฟันตรงด้วยเวลานาทีเดียว เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นยังไง




มาดูการดัดฟันของสาวที่มีฟันไม่สวยสลับกันไปมา โดยคลิปนี้ย่อเหลือเพียง 1 นาที เพื่อให้รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงว่าเมื่อดัดฟันแล้วจะเป็นอย่างไร

Source: http://world.kapook.com/pin/55e27fa94d265ac67a8b456e

Friday, August 28, 2015

60 สูตร Infused Water หรือน้ำหมักผลไม้สไตล์ไทยๆ เครื่องดื่มสุขภาพสุดฮิตมาแรง

Infused Water หรือน้ำหมักผลไม้ ฮิตมากที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในหมู่คนรักสุขภาพ โดยเฉพาะผลไม้ตระกูลเบอร์รีเมื่อนำมาใช้ทำ Infused (Infusion) สารละลายน้ำได้อย่างพวกสารให้สี เมื่อเอาไปเช็คค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) แล้วพบว่าสูง จึงเป็นที่มาว่า Infused Water มีส่วนช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant)
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Easy Cooking เมนูอร่อยใครว่าทำยาก
คนที่รักสุขภาพหลายคนน่าจะพอรู้จักน้ำหมักผลไม้ หรือ Infused Water สำหรับใครที่กำลังมองหาสูตรการทำน้ำหมักผลไม้อยู่ วันนี้มี 60 สูตรน้ำหมักผลไม้แบบไทย ๆ มาฝากจาก คุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม รับรองว่า รสชาติถูกปากเพราะมาจากวัตถุดิบของคนไทย ชอบส่วนผสมไหนก็จัดไปเลยจ้า
Infused Water หรือน้ำหมักผลไม้ ฮิตมากที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในหมู่คนรักสุขภาพ โดยเฉพาะผลไม้ตระกูลเบอร์รีเมื่อนำมาใช้ทำ Infused (Infusion) สารละลายน้ำได้อย่างพวกสารให้สี เมื่อเอาไปเช็คค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) แล้วพบว่าสูง จึงเป็นที่มาว่า Infused Water มีส่วนช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant)
นอกเหนือจากนี้ Infused Water ยังให้ผลในเรื่องการดีท็อกซ์ (Detox) หรือระบายอ่อน ๆ เมื่อดื่มตอนเช้าหลังจากตื่นนอน จะช่วยให้สดชื่นและได้รับวิตามินและเกลือแร่จากผักและผลไม้ชนิดนั้น ๆ ทันที
Infused Water ให้ประโยชน์ในหลายส่วน อีกทั้งยังสามารถดีไซน์ให้สวยงามได้ตามใจ เพียงเลือกผลไม้ที่ชอบสีสันสด ๆ มาใส่ในขวด พกไปดื่มได้ทุกที ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย ที่ทำงาน หรือฟิตเนส
1. น้ำแร่
ส่วนมากในต่างประเทศก็จะแนะนำเป็นน้ำแร่ชนิดที่มีฟอง (Sparkling Mineral Water) เพราะให้ความสดชื่น ลดความเหนื่อยล้า อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ แต่อ่านมาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ ที่อยากจะทำ คงมีคำถามว่า น้ำแร่มีฟองคืออะไร หากไม่มีจะทำได้ไหม ถ้าให้อธิบายคงจะยาวมากเกินไป อ้อไปอ่านเจอข้อมูลของพี่ท่านนึงเขาแนะนำน้อง ๆ เรื่องน้ำดื่มในประเทศอังกฤษไว้ดีมากลองเข้าไปอ่านแล้วพิจารณาดูตามความสะดวกของแต่ละท่านนะคะ (UK Bottled Waters : Mineral, spring, tap water or whatever !)
2. น้ำสะอาด
ในความหมายของ Easycooking คือ น้ำกรองตามบ้านเราปกติเลยค่ะ ที่เราใช้ดื่มที่บ้านนั่นล่ะเอามาใช้ได้เลยค่ะ (อ้อใช้ตลอด)
3. น้ำแข็ง
อันนี้แล้วแต่ความชอบนะคะ จะไม่ใช้น้ำแข็งก็ได้ค่ะ (แต่หากใครต้องการความเย็นสดชื่นแบบเร่งด่วนให้เลือกใช้น้ำแข็งอนามัย หรือน้ำแข็งทำเอง) เพราะหากเลือกน้ำแข็งไม่สะอาดมีการปนเปื้อนสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่า เผลอ ๆ อาจท้องร่วงได้ด้วยค่ะ
ผักผลไม้ที่นิยมใช้ทำ Infused Water
ในส่วนนี้ไม่มีอะไรตายตัวค่ะ ขึ้นกับความชอบและการดีไซน์ของแต่ละคนล้วน ๆ เลย เพียงแต่ควรเลือกผลไม้ที่ไม่เละ หรือกลิ่นแรงเกินไป เช่น ทุเรียน คงไม่มีใครคิดเอามาใช้เนอะ ฮ่า ๆ ส่วนใหญ่ที่จะแนะนำกันในอินเตอร์เนต ก็จะเป็นผัก ผลไม้ และเครื่องเทศจากต่างประเทศ เพราะที่มาเดียวกัน
แต่วันนี้ค่ะอ้อจะมาแนะนำ Infused Water แบบไทย ๆ จำนวน 60 สูตรด้วยกัน อยู่ในภาพด้านล่างนะคะ (ในสูตรอ้อจะตั้งต้นให้ประมาณ 2 ชนิด แต่เพื่อน ๆ สามารถผสมได้หลายหลากกี่ชนิดก็ได้ตามชอบเลยนะคะ สามารถดีไซน์ออกมาเป็นสไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบได้เต็มที่เลยค่ะ)
ตัวอย่าง Infused Water สไตล์ไทย ๆ ฉบับ Easycooking
สูตรที่เขียนให้นี้เป็นเพียงไอเดียตั้งต้นเท่านั้น เพื่อน ๆ สามารถนำไปดัดแปลงได้ตามที่ตนเองชื่นชอบ จะมิกซ์ตามสูตรที่ให้ หรือจะเพิ่มเป็นหลาย ๆ อย่างได้ทั้งหมดนะคะ เพราะไม่มีอะไรตายตัวสำหรับ Infused Water เรียกได้ว่า ออกแบบได้ตามผู้ทำเลยจ้า
1. มะนาว+สะระแหน่
2. เลมอน+สะระแหน่
3. สะระแหน่+ผิวเลมอน
4. สับปะรด+สะระแหน่
5. สับปะรด+ผักชีลาว
6. สับปะรด+มะนาวฝาน
7. แตงโม+สะระแหน่
8. แตงโม+เลมอน
9. แตงโม+ผักชีลาว
10. แอปเปิล+กีวี
11. สตรอว์เบอร์รี+กีวี
12. สตรอว์เบอร์รี+กีวี+สะระแหน่
13. สตรอว์เบอร์รี+สะระแหน่
14. สตรอว์เบอร์รี+ผักชีลาว
15. สตรอว์เบอร์รี+ผักชีฝรั่ง
16. มะเฟือง+มะยม
17. มะเฟือง+พุทรา
18. มะเฟือง+ฝรั่ง
19. ชมพู่+สะระแหน่
20. ชมพู่+ส้ม
21. ชมพู่+แก้วมังกร
22. ส้ม+แก้วมังกร
23. ส้ม+สะระแหน่
24. ส้ม+ผักชีลาว
25. ส้ม+สตรอว์เบอร์รี
26. ส้ม+แอปเปิล
27. ส้ม+สาลี่
28. แก้วมังกร+สาลี่
29. แก้วมังกร+ฝรั่ง
30. ฝรั่ง+แอปเปิล
31. ทับทิม+สะระแหน่
32. ทับทิม+ตะไคร้
33. ตะไคร้+ใบมะกรูด
34. ตะไคร้+สะระแหน่
35. ตะไคร้+ส้มเช้ง
36. โหระพา+เลมอน
37. โหระพา+แตงกวา
38. โหระพา+แครอท
39. แตงกวา+แครอท
40. แตงกวา+สะระแหน่
41. แตงกวา+ผักชีลาว
42. แตงกวา+ผักชีฝรั่ง
43. แตงกวา+ขึ้นฉ่าย
44. ขึ้นฉ่าย+แครอท
45. ขึ้นฉ่าย+เลมอน
46. ขิง+เลมอน
47. ขิง+สะระแหน่
48. ขิง+โหระพา
49. ขิง+ผักชีลาว
50. ดอกอัญชัน+เลมอน
51. ดอกอัญชัน+มะนาวฝาน
52. ดอกอัญชัน+ใบเตย
53. ใบเตย+ตะไคร้
54. ใบเตย+ขิง
55. ใบเตย+แตงกวา
56. ใบเตย+แครอท
57. กระชาย+มะนาวฝาน
58. กระชาย+สะระแหน่
59. กระชาย+เลมอน
60. กระชาย+โหระพา
อุปกรณ์
เหยือกแก้วหรือขวดพาสติกที่มีฝาปิด หากสงสัยให้ค้นหาคำว่า ขวดสำหรับทำ Infused Water ใน google คุณจะพบคำตอบมากมาย แต่ ! ไม่ต้องไปซีเรียสตามแฟชั่น ลองหาขวดในบ้านที่เรามีอยู่แล้วมาใช้ก็ได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือ เราเริ่มทำและดื่มน้ำหรือยัง ?
แต่หากมีคำถามเพิ่มว่า อ้าว ! แล้วแบบที่อ้อใช้ซื้อที่ไหนราคาเท่าไหร่ ตอบคือ อ้อซื้อที่ร้านขายส่งอุปกรณ์เครื่องครัวนำเข้าจากจีน-ญี่ปุ่น อยู่แถว ๆ บ้านค่ะ (ขวดแก้วมีฝาปิด 25 บาท, กระบอกพลาสติกใส่ร้อนได้เย็นได้แบบสั้น 49 บาท แบบยาว 69 บาท) ไม่ต้องฝากซื้อนะ อ้อสั่งเค้าไปนานละยังไม่ได้ของเลย
วิธีทำ
1. นำผักหรือผลไม้ที่ชอบมาล้างให้สะอาด (วิธีล้างผักผลไม้ให้สะอาดปลอดภัย อ่านที่นี่ค่ะ) เป็นวัตถุดิบรอบบ้านเราสไตล์ไทย ๆ นี่แหล่ะค่ะ หอมสมุนไพรที่คุ้นเคย
2. นำผลไม้มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เด็ดผักเป็นใบหรือทั้งก้าน ตามสะดวก (ให้ใส่ขวดได้เป็นพอ)
3. ใส่ขวดหรือกระบอกที่เตรียมไว้ ใช้ช้อนยาว ๆ บี้เค้านิดหน่อยให้น้ำผลไม้ และน้ำมันหอมระเหยของผักออกมา ใส่น้ำแข็งลงไป ตามด้วยน้ำสะอาด ปิดฝา นำไปแช่เย็น ในกรณีต้องการดื่มแบบเย็นสะใจ แช่ไม่นาน (แต่ถ้าต้องการหมักข้ามวัน ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำแข็งค่ะ)
4. หมักขั้นต่ำ 1 ชั่วโมง (บางสูตรพอน้ำหมดเติมใหม่ใช้ได้ 2-3 วัน) แต่อ้อใช้วันต่อวันค่ะ จะหมักตอนเย็นวันนี้เพื่อดื่มพรุ่งนี้ทั้งวันและทิ้งเลยค่ะ (บางท่านคงสงสัยว่าผลไม้ในขวดทำยังไงกับมัน อ้อหมักแค่วันเดียว ถ้าเค้าไม่ได้เลวร้ายมากก็กินเข้าไปด้วยค่ะ ไม่อยากทิ้งเสียดาย 55 ส่วนใหญ่ที่จะยังกินได้จะเป็นสับปะรดค่ะ อย่างอื่นเช่น แตงโมก็ไม่ไหวเหมือนกัน อิอิ
ประโยชน์ที่ได้รับ
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ เพื่อน ๆ ลองใช้วิจารณญานและปรับตามความเหมาะสมของแต่ละท่านนะคะ)
1. ช่วยลดการดื่มน้ำอัดลมได้เยอะมาก เพราะเป็นคนติดน้ำอัดลม และแทบไม่ดื่มน้ำเปล่าเลยค่ะ
2. สีสันที่สวยงาม รสชาติเปรี้ยวนิดหอมหน่อย จากผลไม้และสมุนไพร ทำให้ชวนดื่มมาก ๆ
3. เป็นคนท้องผูกมาตลอดตั้งแต่เด็ก ๆ ต้องกินผักเยอะมากจึงจะขับถ่ายปกติ แต่พอดื่มเจ้า Infused Water การขับถ่ายดีขึ้นมากค่ะ สิวแทบไม่ขึ้นอีกเลย
4. เป็นคนผิวแห้งมาแต่เด็ก ๆ ตอนนี้ก็ยังแห้งอยู่นะ แต่ผลจากการดื่มน้ำมาก ๆ ทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น (ไม่ถึงขนาดกลายเป็นคนผิวดี แต่ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะค่ะ)
5. แน่นอนจากการดื่มน้ำผลที่ตามมาคือ การเข้าห้องน้ำบ่อยมาก (แต่ถ้าเราคิดดี ๆ การเดินไปเข้าห้องน้ำแลกมาด้วยสุขภาพที่ดี ผิวพรรณดี ไม่ต้องทรมานเวลาท้องผูก หรือเสียเงินค่าครีมแพง ๆ มาพอกตัว อ้อว่ามันคุ้มนะ)
source: facebook

หญิงคนนี้ปวดท้อง และมีเลือดปน จึงไปพบหมอ หมอส่องกล้องเท่านั้นละถึงกับผงะ ใครปวดท้องบ่อยควรระวังให้มาก!!


อย่างเช่นเหตุการณ์ต่อไปนี้หญิงสาวคนหนึ่งปวดท้องอย่างรุนแรงแบบไม่ทราบ สาเหตุ จนเธอทนไม่ไหวต้องไปพบแพทย์ในทันที และเธอต้องตกใจเมื่อทราบถึงต้นตอที่กำลังทำลายชีวิตเธอ

จู่ๆ เธอก็มีอาการปวดท้องติดต่อกันหลายๆ วัน เธอเลือกที่จะรับประทานยาที่ซื้อมาเอง จากนั้นก็ปวดท้องอย่างรุนแรง จนกระทั่งปวดท้องแบบปกติ ทุกๆ ครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งมีมูกเลือดปนมาด้วย จึงตัดสินใจเข้าไปพบแพทย์ จากนั้นเมื่อทำการส่องกล้อง ก็ต้องรู้สาเหตุว่าเป็นเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ เป็นมะเร็งในลำไส้ใหญ่

อาการ ปวดท้องดังกล่าว แพทย์เผย เป็นติ่งเนื้อที่อยู่ในลำไส้ แล้วจะโตขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายกลายเป็นเนื้อร้าย สาเหตุนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม นับว่าโชคดีที่เธอได้รับการรักษาได้ทันท่วงที ด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย ทำให้โรคร้ายไม่ลุกลามไปส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เป็นอุทาหรณ์ว่า หากพบร่างกายผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน

ที่มา: http://www.bigza.com/news-177745